มองเห็นจุดเล็กลอยในอากาศ เสี่ยงภาวะวุ้นในตาเสื่อม! รีบรักษาก่อนสาย

ถ้าคุณเคยเห็นเหมือนกับมีจุดเล็กลอยไปมาตอนมองไปในอากาศ ยิ่งเห็นชัดตอนมองในพื้นที่โล่ง ๆ บ้างมองเห็นเป็นจุดเล็ก บ้างก็เห็นเป็นจุดใหญ่ หลายคนไม่มีอาการอะไรนอกจากนี้ เลยทำให้ไม่ค่อยใส่ใจ ไม่คิดว่าเป็นความผิดปกติ จนกว่าอาการจะรุนแรงหนัก รู้หรือไม่ว่าคุณอาจกำลังเผชิญกับภาวะวุ้นในลูกตาที่กำลังเสื่อมสภาพ แม้จะพบได้มากในผู้สูงอายุ

แต่ในปัจจุบันกลับพบภาวะนี้ในกลุ่มคนหนุ่มสาวเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ ด้วยการทำงานที่ต้องอยู่กับหน้าจอ พฤติกรรมการใช้มือถือที่มากเกินไป ซึ่งกลายเป็นโรคที่คนส่วนใหญ่มองข้าม กว่าจะรู้ตัวอีกที วุ้นในตาก็เสื่อมสภาพจนยากจะแก้ไขให้กลับมามองเห็นได้ตามปกติ ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ลองมาทำความรู้จักกับโรคนี้ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงสาเหตุ และทำการรักษาสำหรับกลุ่มที่เริ่มมีอาการ ป้องกันไม่ให้โรคนี้เป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต

วุ้นในตาคืออะไร?

วุ้นในตามีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Vitreous เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของดวงตา ลักษณะเป็นวุ้นใสเหมือนไข่ขาว จะอยู่ด้านหลังเลนส์ตายึดกับส่วนของผิวจอตา เมื่อวุ้นในตาเสื่อมลง ไม่ว่าจะมาจากอายุที่มากขึ้น หรือการใช้งานที่หนักจนทำให้เสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ตัววุ้นที่สมบูรณ์จะค่อย ๆ เปลี่ยนสภาพกลายเหลวลงกว่าปกติ มีความขุ่น หดตัว ส่งผลให้แสงที่ส่งผ่านเข้ามาเกิดการหักเห เป็นเหตุทำให้มองเห็นจุดหรือหยากไย่ลอยไปมา

อาการของโรควุ้นในตาเสื่อม

อาการของโรคจะเริ่มต้นขึ้นอย่างช้า ๆ โดยสังเกตได้ว่าจะมองเห็นจุดหรือเส้นสีดำ ลักษณะเหมือนหยากไย่ ยิ่งกลอกตา ยิ่งมองเห็นชัด ถ้ามองไปยังผนังสีขาว จะเห็นจุดผิดปกติที่เกิดขึ้นจากวุ้นในตาเสื่อมชัดเจน ซึ่งมีผลต่อการมองเห็น รู้สึกรำคาญ แต่ถ้าอาการไม่รุนแรง ไม่นานสมองจะเริ่มชิน และใช้ชีวิตได้ตามปกติ

แต่ใช่ว่าอาการดังกล่าวควรปล่อยเอาไว้ หากพบความผิดปกติต้องรีบทำการรักษา ซึ่งในระยะแรกผู้ป่วยอาจจะไม่ค่อยรู้สึกว่าต้องไปพบแพทย์ ซึ่งเงาดำหรือจุดดำที่มองเห็นจะเริ่มเพิ่มมากขึ้นเมื่อวุ้นเหลวและหดตัวมากกว่าเดิม เสี่ยงที่จะเกิดหลุดลอกออกจากผิวจอตา

บางรายตัววุ้นหดตัวจนรั้งกับผิวจอตา ส่งผลให้เกิดมองเห็นแสงวาบคล้ายไฟแฟลช หรือฟ้าแล่บเมื่อหลับตา ยิ่งมืดยิ่งมองเห็นได้ชัดเจน เมื่อวุ้นหลุดออกไปแล้ว อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่หากเกิดการดึงรั้งจนกระทั่งหลอดเลือดบริเวณดวงตาฉีกขาด จะเกิดเลือดออก มองเห็นเงาสีดำเพิ่มมากขึ้น ในรายที่รุนแรงวุ้นตาที่เหลวแล้วอาจเข้าไปในส่วนของรอยฉีดขาดนั้น เสี่ยงจอตาลอกและสูญเสียการมองเห็นในที่สุดได้เลยทีเดียว

สาเหตุของการเกิดโรควุ้นในตาเสื่อม

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การเสื่อมสภาพของวุ้นในตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบได้บ่อยคือการเสื่อมสภาพตามช่วงวัย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มขึ้นเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป หรือคนที่มีปัญหาสายตาสั้น วุ้นจะเสื่อมสภาพไวกว่าปกติ หรือสาเหตุที่มาจากภายนอก เช่น อุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนกับดวงตา, ภาวะแทรกซ้อนที่มาจากการผ่าตัดต้อกระจก ส่วนอาการภายในที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมา เช่น ดวงตาอักเสบ, ภาวะเบาหวานขึ้นตา, การอักเสบจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย, โรคมะเร็ง เป็นต้น

เมื่อไหร่ที่ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์

อาการผิดปกติของวุ้นในตาเสื่อมนั้น เมื่ออาการยังไม่รุนแรงในช่วงแรก ให้รีบเข้าทำการตรวจรักษา เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นต้นตอหลัก ยิ่งในคนที่มองเห็นเงาสีดำเป็นจุดใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น หรือขนาดขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้รีบเข้ารับการตรวจจากแพทย์โดยด่วน การเข้าพบแพทย์ควรทำทันทีเมื่อรู้สึกว่าดวงตาผิดปกติ การมองเห็นไม่เหมือนเดิม แม้เพียงเล็กน้อย ก็ต้องรีบหาสาเหตุ เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญและมีความบอบบาง หากสาเหตุมาจากวุ้นในตาเสื่อมจริง แพทย์จะทำการรักษาโดยยึดเอาความรุนแรงของอาการเป็นหลัก มีทั้งวิธีการผ่าตัดด้วยระบบเลเซอร์ยุคใหม่ที่ช่วยให้โรคหายเป็นปกติได้มากถึง 80% และไม่กลับมาเป็นอีก

ในรายที่มีอาการไม่รุนแรง จะใช้การติดตามอาการเพื่อเช็คอยู่เสมอว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงจอประสาทตาหลุดลอกหรือไม่ ถ้ายังเป็นปกติ มีเพียงแค่ความรำคาญ อาจไม่แนะนำให้ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ หรือบางรายไม่อยากมองเห็นจุดดำหรือสิ่งแปลกปลอมที่ปรากฏในตาลอยไปลอยมา ก็สามารถใช้วิธีผ่าตัดด้วยเลเซอร์ กำจัดเอาตะกอนวุ้นตาที่เป็นตัวปัญหาออกไป ซึ่งจะทำให้กลับมามองเห็นได้เป็นปกติ